ข้อควรระวังในการใช้ ยา caverta อินเดีย

หากเอ่ยถึงยา Ffizer ทุกคนก็จะต้องรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นยาไวกร้าตัวแรกที่มีการใช้อย่างแพร่หลายและเป็นที่นิยม ก่อนที่จะมียี่ห้ออื่น ๆ เกิดขึ้นในท้องตลาด ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกได้หลากหลายขึ้น ซึ่งมียาทั้งของอเมริกา อังกฤษ ไทย และอินเดีย ซึ่งยาของอินเดียนั้นก็มีหลายตัวที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน หนึ่งในนั้นก็คือ ยา caverta หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักหรือไม่คุ้นเคย ซึ่งยาตัวนี้ก็สามารถใช้แก้ปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้เหมือนยาตัวอื่น ๆ และในขณะเดียวกันก็มีผลข้างเคียงและข้อควรระวังในการใช้เช่นกัน ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น บทความนี้มีมาบอก

ยา caverta แก้ปัญหาสมรรถภาพทางเพศ

ซิลเดนาฟิลซิเตรต เป็นสารออกฤทธิ์ใน caverta 100 mg ใช้สำหรับการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (ED) ซึ่งเรียกอีกอย่างว่าภาวะอวัยวะเพศไม่แข็งตัวในผู้ชาย ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศเป็นภาวะที่ผู้ชายไม่สามารถที่จะรักษาการแข็งตัวของอวัยวะเพศได้เพียงพอสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อมีการไหลเวียนของเลือดไปที่อวัยวะเพศลดลง การไหลเวียนของเลือดที่ลดลงอาจเกิดจากภาวะแทรกซ้อนทางร่างกาย จากอาการบาดเจ็บหรือโรคต่าง ๆ หรือสืบเนื่องมาจากสภาวะทางจิตใจบางอย่าง เช่น ความวิตกกังวล ความเครียด ภาวะซึมเศร้า ฯลฯ รวมถึงปัจจัยการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเป็น ภาวะอ้วน การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา เหล่านี้ ก็อาจทำให้เกิดภาวะ ED ได้ทั้งสิ้น

ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เกี่ยวข้องกับอายุเป็นอย่างมาก และการเกิดภาวะนี้มีทั้งระดับปานกลางไปจนถึงรุนแรง รวมถึงอาจเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า ในช่วงระหว่างอายุ 40-70 ปี ยา caverta จะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อเรียบที่อยู่ในผนังหลอดเลือด และช่วยในการเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศชาย ซึ่งจะทำงานได้ดีเมื่อสาเหตุเกิดจากสภาวะทางร่างกาย แต่หากสาเหตุพื้นฐานของอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศเป็นเหตุผลทางด้านจิตใจ ยาอาจทำงานไม่ได้ผลเท่าที่ควร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการด้วย และควรได้รับการให้คำปรึกษาทางจิตวิทยาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด พร้อมกับมาตรฐานการดูแลที่จะส่งผลให้การรักษาสัมฤทธิ์ผลได้ และสิ่งสำคัญที่ควรรู้ก็คือ ยานี้ไม่ได้ช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็น ซิฟิลิส หนองในเทียม หรือเอชไอวี ฯลฯ

วิธีการใช้ยา

Caverta ยาเม็ดสีแดง สุดยอดจากอินเดีย ที่มีตัวยาซิลเดนาฟิลขนาด 100 mg ซึ่งเป็นตัวยาเดียวกับ ออกฤทธิ์ยาวนาน 12 ชั่วโมง ควรเริ่มกินครั้งละครึ่งเม็ด หากไม่ได้ผลให้เพิ่มปริมาณอีกครึ่งเม็ดที่เหลือ และไม่ควรกินยานี้เกิน 1 เม็ด หรือ 100 mg ต่อวัน อย่ากินยาในปริมาณที่มากหรือน้อยกว่าที่แนะนำ และกินยานี้อย่างน้อย 30-60 นาทีก่อนมีเพศสัมพันธ์ โดยกินก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ และดื่มน้ำตามมาก ๆ ทุกครั้ง หลีกเลี่ยงการกินน้ำเกรปฟรุตในปริมาณมากขณะกินยานี้ เพราะน้ำเกรพฟรุตอาจรบกวนการทำงานของยา และทำให้ไม่ได้ผลตามที่ต้องการ หรืออาจทำให้ผลลัพธ์ที่ได้มีความล่าช้า และควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ หรือดื่มให้น้อยที่สุดในขณะที่กำลังใช้ยานี้ด้วย เนื่องจากจะทำให้มีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของผลข้างเคียงที่รุนแรงได้ เช่น อาการเวียนศีรษะ เป็นลม หน้าแดง ปวดหัวบ่อย ๆ หรือมีอัตราการเต้นของหัวใจเปลี่ยนแปลงฉับพลัน เป็นต้น ทั้งยังมีผลให้ประสิทธิภาพของยาลดลงอีกด้วย

ผลข้างเคียงในการใช้ ยา caverta

ยาเม็ด caverta 100 mg อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงได้ เช่น เกิดอาการอวัยวะเพศแข็งตัวเป็นเวลานานและเจ็บปวดซึ่งกินเวลานานกว่า 4 ชั่วโมง สูญเสียการมองเห็นในตาข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง มีความบกพร่องทางการได้ยิน เป็นต้น ควรปรึกษาแพทย์ทันทีในกรณีที่มีอาการไม่พึงประสงค์ดังกล่าว นอกจากนี้ในคนที่มีอาการหรือมีโรคต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ ก็ต้องระวังในการใช้ยาด้วย ได้แก่

1. โรคภูมิแพ้ ไม่แนะนำให้ใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีอาการแพ้ซิลเดนาฟิล หรือส่วนผสมอื่น ๆ ในตัวยา

2. ยาในกลุ่มไนเตรต ไม่แนะนำให้ใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่ได้รับยาอื่น ๆ ที่มีไนเตรต เช่น Nitroglycerin, Isosorbide เป็นต้น เนื่องจากมีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของผลข้างเคียงที่ร้ายแรง

3. ยา Riociguat ไม่แนะนำให้ใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่ได้รับ Riociguat (ชื่อทางการค้ายอดนิยมคือ Adempas) เนื่องจากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของผลข้างเคียงที่ร้ายแรง

4. ภาวะหัวใจล้มเหลว ไม่แนะนำให้ใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีอาการแน่นหน้าอกอย่างรุนแรง หรือภาวะหัวใจล้มเหลวอย่างรุนแรง เพราะอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

ข้อควรระวังอื่น ๆ ในการใช้

1. ไม่เหมาะกับผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำ เพราะ ยา caverta อาจทำให้ระดับความดันโลหิตลดลงเล็กน้อยและเป็นเวลาสั้น ๆ ควรใช้ความระมัดระวังหากคุณกำลังใช้ยาเพื่อลดระดับความดันโลหิตสูง

2. หากมีความผิดปกติของอวัยวะเพศชาย ควรใช้ยานี้ด้วยความระมัดระวัง เพราะอาจส่งผลให้เกิดความเสี่ยงของการสูญเสียสมรรถภาพทางเพศอย่างถาวร อาจเปลี่ยนทางเลือกในการรักษาที่เหมาะสม และควรพิจารณาจากอาการของแต่ละบุคคลด้วย

3. ยานี้อาจทำให้เกิดอาการ Priapism ซึ่งเป็นการแข็งตัวที่เจ็บปวดเป็นเวลานานกว่า 4 ชั่วโมง ผู้ป่วยที่เป็นโรคโลหิตจางชนิดเซลล์รูปเคียว มะเร็งเม็ดเลือดขาว หรือมีความผิดปกติทางกายภาพของอวัยวะเพศ ฯลฯ จะมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดภาวะ Priapism นี้ได้ และอาจส่งผลให้เนื้อเยื่ออวัยวะเพศเสียหายและสูญเสียสมรรถภาพทางเพศอย่างถาวร ดังนั้น ควรใช้ยานี้ด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง

4. อาจทำให้สูญเสียการได้ยิน เนื่องจากยานี้อาจทำให้ความสามารถในการได้ยินลดลงอย่างกะทันหัน พร้อมกับมีเสียงหึ่งหรือเสียงดังในหู ควรหยุดใช้ยานี้ทันที และรีบไปพบแพทย์เมื่อมีอาการดังกล่าว

5. สูญเสียการมองเห็น ยา caverta อาจทำให้สูญเสียการมองเห็นอย่างกะทันหันในตาข้างเดียวหรือทั้งสองข้างได้ นอกจากนี้ยังอาจทำให้ความสามารถในการแยกสีด้อยลง มีอาการมองเห็นสิ่งต่าง ๆ เป็นสีฟ้า หรือสีเขียวได้

6. หากต้องมีการทำศัลยกรรม จะต้องระมัดระวังในการใช้ยา และควรแจ้งศัลยแพทย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด เพราะเสี่ยงต่อผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้

7. ความเสี่ยงของผลข้างเคียงจะสูงมาก ในผู้ที่สูบบุหรี่ ผู้ป่วยสูงอายุ และผู้ป่วยที่เป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน ระดับความดันโลหิตสูง ระดับคอเลสเตอรอลสูง เป็นต้น เนื่องจากผลข้างเคียงบางอย่างอาจเกิดขึ้นขณะมีเพศสัมพันธ์หลังกินยานี้ จำเป็นต้องปรับขนาดยาที่เหมาะสม หรือทดแทนด้วยทางเลือกอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับอาการของแต่ละบุคคล

8. ไม่แนะนำให้ใช้ยานี้ในผู้ที่อายุน้อยกว่า 18 ปี เนื่องจากความปลอดภัยและประสิทธิภาพของการใช้ไม่ได้รับการยอมรับทางการแพทย์

9. ผู้ป่วยที่เป็นโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการเป็นโรคต่อมลูกหมากโต นอกจากนี้ ยาอาจมีปฏิกิริยากับยาที่ใช้ในการรักษาต่อมลูกหมากโต และปฏิกิริยาของยาอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงด้วย

สาเหตุพื้นฐานของอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศนั้น อาจเป็นทางร่างกาย ทางจิตใจ หรือทั้งสองอย่าง สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาสาเหตุที่แท้จริงของการหย่อนสมรรถภาพทางเพศของคุณ เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม ในกรณีที่มีสาเหตุทางด้านจิตใจเพียงอย่างเดียว ควรต้องได้รับการให้คำปรึกษาทางจิตวิทยาจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการรักษาอาการ ทั้งนี้การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต ก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยป้องกันและแก้ไขอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้เช่นกัน

เนื่องจากปัจจัยการดำเนินชีวิตต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การสูบบุหรี่จัด หรือดื่มสุราเป็นประจำ กินอาหารที่มีไขมันสูง จนทำให้เสี่ยงในการเป็นโรคอ้วน ก็มีส่วนทำให้เป็นโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้ ดังนั้น การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตจะเป็นอีกทางที่ช่วยรักษา ลองงดสูบบุหรี่ ลดดื่มสุรา กินอาหารเพื่อสุขภาพ ลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม และออกกำลังกายควบคู่ไปกับการรักษามาตรฐานด้วย ยา caverta เพื่อให้อาการดีขึ้น ก็จะช่วยแก้ปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ที่เป็นปัญหาหนักใจของใครหลาย ๆ คนได้